ศิลปะท้องถิ่นกับความเป็นมา ศิลปะท้องถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ มักมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของผู้คนในท้องถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินหรือผู้คนในท้องถิ่นเอง และมีลักษณะไม่เหมือนกับผลงานศิลปะท้องถิ่นอื่น ๆ ศิลปะในท้องถิ่นเป็นสิ่งที่นักเรียนควรเรียนรู้และเห็นคุณค่า โดยเฉพาะผลงานศิลปะในท้องถิ่นของตนเอง ดังนั้น นักเรียนควรศึกษาถึงความเป็นมาของผลงานศิลปะเหล่านั้น เพื่อสามารถแนะนำผู้อื่นได้ โดยอาจใช้วิธีการ ดังนี้ 1. สัมภาษณ์โดยตรงกับศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นนั้น 2. จดบันทึกจากแผ่นป้ายนิเทศ 3. ศึกษาจากหอสมุดหมู่บ้านหรือวัด 4.
ซอกะโป๊ะ (กะลามะพร้าว) เขตช่วงเสียงจะสูง และขึ้นอยู่กับขนาดเต้าเสียง เทียบได้กับเสียงอัลโต 3 ซอกระบอก เทียบได้กับเสียงโซปราโน วัสดุที่ใช้ทำสายซอ 1. ไหมฝั่นแบบโบราณ เสียงจะนุ่มนวน 2. เบรกรถจักรยาน เสียงโลหะ (Metal Sound) จะให้เสียงกระด้าง สนุกสนาน สรุป การทำซอปี๊บ ของพ่อโกศล นั้น เกิดจากภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษของหมู่บ้าน และบริเวณหมู่บ้านในสมัยก่อนเป็นป่าหนา มีต้นไม้มาก ซึ่งเป็นวัสดุในการทำซอเป็นอย่างดี ในปัจจุบัน เป้าหมายของการทำซอปี๊บ คือ การสืบทอดจากบรรพบุรุษของหมู่บ้านโนนรัง เป็นวิทยากรสาธิตให้กับนักเรียนนักศึกษาในการเล่นซอปี๊บ และแสดงตามงานโอท๊อป การทำซอปี๊บนั้นจะทำก็ต่อเมื่อ มีผู้สั่งทำเท่านั้น และไม้ที่ทำ คันทวน ก็อาจจะไม่ใช้ไม้ประดู่ แต่อาจเป็นไม้เนื้อแข็งประเภทอื่นตามแต่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป และนอกจากนี้ที่ยังมีการทำหัถกรรมด้านอื่น ๆ ได้แก่
ศิลปกรรมภาคกลาง ชนชาติไทยเป็นชนชาติที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปกรรมสูงงานศิลปะเป็นงาน ที่ให้ความรู้สึกทางด้านสุนทรีย์ของมนุษย์ที่มีจิตใจสูง ซึ่งถ่ายทอดความรู้สึกที่มีคุณค่าทางจิตใจ ส่งผลให้คนไทยเป็นผู้มีวัฒนธรรมทางจิตใจที่ถ่ายทอดทางอารมณ์โดดจะมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณะของแต่ละภาค แบ่งได้ 2 ลักษณะคือ 1. ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปธรรม ได้แก่ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม และประณีตศิลป์ พระบรมบรรพต วัดสระเกศราชมหาวิหาร ยักษ์บนฐานปลายพลสิงห์ เหนือบันไดทางขึ้นพระมณฑป วัดพระศรีรัตนศาสดา ราม หล่อด้วยโหละปิดทอง สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 3 มีจิตรกรรมไทยแบบพระราชนิยมเกิดขึ้นด้วย คือ จิตรกรรมฝาผนังที่เขียนแบบจีน 2.
ศ.
หนองหาน จ. อุดรธานี เป็นต้น ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานของไทยรวมไปถึงลาว โดยมีตำนานมาจาก นิทาน พื้นบ้านของภาคอีสานเรื่องพระยาคันคาก เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทางพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้านได้จัดงาน บุญบั้งไฟ ขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือเทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่ง ชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล
การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย การอนุรักษ์วัฒธรรมไทยนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือกันของคนไทยทุกคนมีวิธีการ ดังนี้ 1. ศึกษา ค้นคว้า และการวิจัยวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งที่มีการรวบรวมไว้แล้วและยังไม่ได้ศึกษา เพื่อทราบความหมาย และความสำคัญของวัฒนธรรมในฐานะที่เป็นมรดกของไทยอย่างถ่องแท้ ซึ่งความรู้ดังกล่าวถือเป็นรากฐานของการดำเนินชีวิต เพื่อให้เห็นคุณค่า ทำให้เกิดการยอมรับ และนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม ต่อไป 2. ส่งเสริมให้ทุกคนเห็นคุณค่า ร่วมกันรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติและของท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจแก่ประชาชนในการปรับเปลี่ยนและตอบสนองกระแสวัฒนธรรมอื่นๆ อย่างเหมาะสม 3. รณรงค์ให้ประชาชนและภาคเอกชน ตระหนักในความสำคัญ ของวัฒนธรรม ว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้การรับผิดชอบร่วมกันในการส่งเสริมสนับสนุน ประสานงานการบริการความรู้ วิชาการ และทุนทรัพย์สำหรับจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม 4. ส่งเสริมและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยการใช้ศิลปะวัฒนธรรมที่เป็นสื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน 5. สร้างทัศนคติ ความรู้ และความเข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่เสริมสร้าง ฟื้นฟู และการดูแลรักษา สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรมที่เป็นสมบัติของชาติ และมีผลโดยตรงของความเป็นอยู่ของทุกคน 6.
ไม่ทำลายผลงานศิลปะต่าง ๆ ในท้องถิ่น 4. เข้าร่วมกิจกรรมแสดงผลงานศิลปะหรือกิจกรรมอนุรักษ์ผลงานศิลปะ 5. หากพบรอยชำรุดของผลงานศิลปะให้แจ้งหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป การอนุรักษ์งานศิลปะในท้องถิ่น ผลงานศิลปะในแต่ละท้องถิ่น ล้วนเป็นผลงานที่มีคุณค่า เราจึงควรภาคภูมิใจและช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ซึ่งวิธีการอนุรักษ์ผลงานศิลปะเหล่านั้น อาจทำได้โดยวิธี ดังนี้ 1. สนับสนุนผลงานศิลปะโดยการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลงานศิลปะในท้องถิ่นตามความเหมาะสม 2. ถ้ามีโอกาสควรศึกษาเรียนรู้วิธีการสร้างผลงานศิลปะในท้องถิ่นนั้น ๆ จากศิลปินในท้องถิ่น และเข้าร่วมกิจกรรมที่แสดงผลงานศิลปะในท้องถิ่น 3. เผยแพร่ผลงานศิลปะให้เป็นที่รู้จักแก่คนท้องถิ่นอื่น ๆ 4. เห็นคุณค่าของผลงานศิลปะในท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น วัฒนธรรมภาคเหนือ ภาคเหนือ เป็นท้องถิ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน และมีประเพณีวัฒนธรรมหลากหลาย ดั้งนี้มีแหล่งกำเนิดงานศิลปะอยู่มากมาย เช่น แหล่งทำร่มบ่อสร้าง และแหล่งผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ แหล่งทำถ้วยชามตราไก่ อ. เกาะคา จ.
โพสต์ 6 ก. ค. 2559 19:54 โดยไม่ทราบผู้ใช้ [ อัปเดต 6 ก.
และ 15.