รับประทานถั่วเหลือง ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยสารไอโซฟลาโวน ซึ่งเป็นสารประกอบในพืชที่ทำหน้าที่เหมือนกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทั้งนี้ไอโซฟลาโวนอาจช่วยบรรเทาปัญหาผิว และนักวิจัยเชื่อว่าการทานไอโซฟลาโวนประมาณ 50 มิลลิกรัมต่อวัน สามารถช่วยบรรเทาปัญหาอื่นๆ ที่พบในผู้หญิงวัยทองเช่นกัน 6. อย่าเครียด ความเครียดสามารถทำให้ผิวแห้งและบอบบางมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน นอกจากนี้ถ้าคุณเครียด คุณอาจไม่มีอารมณ์ปรนนิบัติผิวหรือดูแลตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรกำจัดความเครียดให้หมดไป สำหรับวิธีที่ช่วยคลายเครียด หรือทำให้คุณสงบลงก็ได้แก่การฝึกโยคะหรือการนั่งสมาธิ 7. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยให้กล้ามเนื้อตึงตัวเท่านั้น แต่มันยังช่วยคลายเครียด ซึ่งมีผลต่อผิวตามที่เรากล่าวไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งจะชะลอตัวเมื่อเราอายุมากขึ้น การไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนที่มากขึ้นสามารถช่วยให้ผิวดูสดใสและดูมีสุขภาพดี 8.
กด 2. เติมความชุ่มชื้น หลังจากผ่านพ้นช่วงวัยทอง ผิวของคุณจะแห้งมากขึ้น เพราะต่อมไขมันจะทำงานได้แย่กว่าเดิม ทั้งนี้ให้คุณเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวโดยใช้ครีมที่มีเนื้อหนักขึ้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการอาบน้ำเป็นเวลานานหรืออาบน้ำร้อน และทาครีมมอยส์เจอไรเซอร์เมื่อผิวยังคงมีความชื้น 3. ใช้ครีมกันแดด แม้ว่าโรคมะเร็งผิวหนังและริ้วรอยจะเกิดขึ้นจากปริมาณของแสงอาทิตย์ที่สะสมตั้งแต่ช่วงวัย 20 - 49 ปี แต่คุณก็ยังจำเป็นต้องปกป้องผิวจากแสงแดดค่ะ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการปกป้องผิวตามธรรมชาติของเราก็จะน้อยกว่าตอนอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว ดังนั้นคุณควรทาครีมกันแดดทุกวัน โดยให้เลือกสูตรที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป 4. จัดการกับจุดด่างดำ เมื่ออายุมากขึ้น จุดด่างดำที่เกิดตามใบหน้า มือ และหน้าอกจะดูชัดเจนในช่วงวัยทอง ซึ่งคุณสามารถป้องกันโดยใช้ครีมกันแดดทุกวัน แต่หากมีจุดด่างดำเกิดขึ้นแล้ว ให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและตกสะเก็ด นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสก็สามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ ในขณะที่โทนเนอร์มีคุณสมบัติช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ 5.