ไม่มีประสบการณ์การทำงาน เพราะไม่เคยฝึกงาน หรือทำงาน Part-time ตอนเรียน ไม่กล้าลองทำงานอื่น ๆ เพื่อหาประสบการณ์ไปก่อน ทักษะหรือความสามารถที่มีไม่โดดเด่นเพียงพอ เนื้อหาในเรซูเม่และจดหมายสมัครงานไม่ดึงดูด ไม่เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปสัมภาษณ์งาน จนเกิดความผิดพลาดระหว่างการสัมภาษณ์ ไม่รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อน รุ่นพี่ อาจารย์ หรือคนที่เคยฝึกงานด้วย ทั้งที่พวกเขาอาจช่วยแนะนำงานให้ได้ เรซูเม่ตกหล่นหรือเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนการแจ้งผล แล้วผู้สมัครไม่สนใจที่จะติดตามผล เอาแต่โทษสิ่งรอบข้าง โดยไม่มองหาและแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเอง JobThai Mobile Application หางานง่าย ได้งานที่ใช่ โหลดเลย!
กลุ่มคนตั้งใจหางาน 2. กลุ่มที่รอโอกาส ซึ่งตรงกับกลุ่มเอเชียบ้านเรา นั่นหมายรวมถึงนักศึกษาจบใหม่ สำหรับเทคนิคการหางานให้ได้ทำงาน สำหรับนักศึกษาจบใหม่ นางนพวรรณ ระบุว่าไว้หลายข้อ 1. หาให้ถูกที่ คือเราต้องไปหางานให้ถูกที่ อาจต้องใช้ช่องทางทางมีเดียที่ถูกต้อง ตรงจุด เพราะหากไปผิดที่ ไปในมีเดียที่ไม่มีงานให้เห็น มันจะทำให้การหางานยากยิ่งขึ้น 2. เข้าใจตัวเอง เราต้องรู้ตัวเอง ว่ามีดีอะไร ตรงไหน อะไรคือจุดเด่นของตัวเอง และอะไรคืองานที่เราชอบ ถ้าเราเข้าใจข้อนี้ คือเราเข้าใจตัวเอง ว่ามีทักษะอะไรเด่น มีความรู้ที่ดีในด้านใด เราถึงจะไปในสเต็ปที่ 3 ต่อได้ และ 3.
สำหรับผู้ติดตาม The MATTER ที่สนใจสมัครเข้า Talk & Workshop ของ Brand's Summer Camp Plus ปีที่ 31 สามารถสมัครได้ที่: (อย่าลืม! แจ้งว่ามาจาก The MATTER เพราะจะมีเพียง 20 คนแรกเท่านั้น ที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้างาน ต้องรีบกันหน่อยนะ) Content by Isariya Wichitnetisard Illustration by Kodchakorn Thammachart
คงเป็นช่วงที่บัณฑิตจบใหม่หลายคนกำลังประสบปัญหากับความรู้สึก 'เคว้ง' เพราะในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ มีงานทำกันไปหมดแล้ว แต่เรายังต้องการเวลาอีกสักปีสองปีเพื่อค้นหาความชอบของตัวเองอยู่เลย การมี 'แกปเยียร์' (gap year) หรือช่วงเวลาพักผ่อนหลังเรียนจบ ทำไมถึงทำให้รู้สึกกดดันได้ถึงขนาดนี้กันนะ?